เพชรกุหลาบ หรือ เพชรเหลี่ยมกุหลาบ ที่ได้รับการตั้งชื่อนี้ ว่ากันว่ามีลักษณะคล้ายกับดอกไม้ ซึ่งรูปร่างของเพชรเหลี่ยมกุหลาบ ที่มีฐานที่แบนราบ การเจียระไนมาในแบบทรงโดม การเจียระไนเพชรมีตั้งแต่ 3 จนถึง 24 เหลี่ยม ส่วนรูปร่างของเพชรอาจมีความผันแปรไปเล็กน้อย

เพชรเหลี่ยมกุหลาบ เป็นรูปแบบการเจียระไนเพชรที่เก่าแก่ ที่ย้อนเวลากลับไปในช่วงศตวรรษที่ 16 จะเจียระไนเพชรแบบเรียบง่าย ยังมีเหลี่ยมเพชรไม่มากนัก แต่ก็ได้รับความนิยมตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จนเริ่มมีการพัฒนาเทคนิคการเจียระไนเพชรมากขึ้น เกิดรูปร่างเพชรประณีตงดงาม ประกอบกับได้รับการออกแบบแหวนเพชรในสไตล์วินเทจให้ผู้บริโภคได้เลือกใส่ ทั้งเพชรเหลี่ยมกุหลาบรูปทรง round, princess, cushion , oval , pear ที่ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน

อัญมณีอีกชนิดหนึ่ง ที่เลียนแบบสังเคราะห์ขึ้นมาให้เหมือนเพชรแท้ โมอีส หรือ มอยส์ซาไนต์ [ Moissanite ] ที่เราเรียกว่า “เพชรโมอีส” เป็นเพชรที่ได้สังเคราะห์ขึ้นมา ให้เหมือนเพชรแท้มากที่สุด ด้วยคุณสมบัติการสะท้อนแสงไฟได้ดี มีประกายสีรุ้งสวยงาม ของเพชรโมอีส  ในปัจจุบัน จึงนิยมทำเป็นเครื่องประดับแทนเพชรแท้ ที่มีจำหน่ายตามร้านขายเพชรอยู่ทั่วไป อย่างไรก็ตาม เพชรโมอีส ไม่ใช่เพชรแท้ เรามักจะสับสนกับเพชรแท้ หรือเพชรเทียม เพราะแทบแยกไม่ออกด้วยตาเปล่า แม้แต่นักอัญมณี ยังต้องใช้เครื่องมือพิเศษ และกลยุทธ์ในการตรวจสอบเพชร แค่เครื่องตรวจเพชรธรรมดา หรือที่เรารู้จักว่า เครื่องจี้เพชร ก็ไม่สามารถหาความแตกต่างได้ เนื่องจากเพชรโมอีส สามารถนำความร้อนได้ ใกล้เคียงกับเพชรแท้นั่นเอง  แต่ปัจจุบันได้มีการนำเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบเพชร ซึ่งเป็นการนำเครื่องตรวจเพชรสังเคราะห์มอยส์ซาไนต์ รวมเป็นเครื่องเดียวกัน เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ข้อแตกต่างกันทางกายภาพ ระหว่างเพชรแท้ กับ เพชรโมอีส คือ พื้นผิวของเพชรโมอีสมีความแวววาว มีการกระจายแสงสูงกว่า เล่นไฟได้ดี มีประกายสีรุ้งมากกว่าเพชรแท้ จึงนิยมนำมาใช้ทำเครื่องประดับเพชรเทียม

ส่วนการเจียระไนของเพชรแท้ จะมีเหลี่ยมคมชัดกว่า เพชรโมอีส หรือเพชรเลียนแบบชนิดอื่นๆ ที่เหลี่ยมเพชรจะมนๆไม่คมชัด เนื่องจากเพชรแท้มีความแข็งแกร่งที่สุด และแข็งแรง เวลาเจียระไนจะยิ่งตัดเหลี่ยมได้คมชัดกว่า และน้ำหนักเพชรโมอีส มีน้ำหนักไม่เท่ากับเพชรแท้ การซื้อขายเพชรลักษณะนี้ จึงไม่ใช้วิธีชั่งเป็นหน่วยกะรัตเหมือนเพชรแท้  และจะคิดราคาเป็นเม็ด เช่นเดียวกับพลอยสังเคราะห์ชนิดอื่น  ด้วยความแข็งที่มีไม่มากเท่าเพชรแท้ จึงมีผลต่อการเจียระไน เพราะค่าการเจียระไนพลอยเม็ดเล็กๆ จะราคาสูง

เพชรโมอีส ไม่มีเกรดสีให้เลือกมาก เหมือนเพชรแท้ จะมีแค่เกรดเดียว และรูปทรงของเพชรโมอีส ถ้าเจียระไนเป็นรูปทรงแฟนซี จะมีราคาที่แพงกว่ารูปทรงกลมธรรมดา เมื่อเทียบกับพลอยสังเคราะห์ชนิดอื่น แต่สำหรับราคาของเพชรโมอีส หรือ มอยส์ซาไนต์ ก็ยังราคาถูกกว่าเพชรแท้ค่ะ

เพราะเพชรมีประกายสว่าง ระยิบระยับ พอเพชรได้ไปอยู่บนเครื่องประดับแล้ว ยิ่งเพิ่มความโดดเด่น หรูหรา และชวนดึงดูดสายตา ประกอบกับมีการออกแบบเครื่องประดับเพชรที่สวยงามแล้ว ช่างล่อตาล่อใจ น่าซื้อหาเครื่องประดับเพชรสักชิ้นมาไว้ใส่ แต่ถ้าจะให้เลือกซื้อเครื่องประดับเพชรสักชิ้น ขอแนะนำให้ซื้อเป็นต่างหูเพชรสักคู่ก็ดีนะคะ สามารถใส่ได้ตลอด ให้เข้ากับเสื้อผ้าการแต่งกายได้ทุกแบบ ไม่มากไป หรือน้อยไป ใส่ออกงานก็ยังได้ เช่น ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวติดหู ต่างหูเพชรแฟนซี ต่างหูเพชรแฟชั่น เลือกซื้อเลือกใส่ตามความชอบ ใส่ประดับเพิ่มความสวยงามได้เช่นกัน

ส่วนการจะเลือกซื้อต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยว ก็ต้องมาดูรูปแบบของการขึ้นตัวเรือน รูปทรงไหนบ้างที่ถูกใจ สามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลักดังนี้

Martini style diamond stud earrings
ต่างหูเพชรรูปแบบนี้ แตกต่างจากอื่น ๆ ในแง่ของวิธีการออกแบบ
ต่างหูเพชรแบบนี้มักจะมีขนาดเล็กกว่า 1 กะรัต ส่วนใหญ่มักจะใช้ต่างหูเพชรกลม หรือ ต่างหูเพชรรูปสี่เหลี่ยม ดูจะเป็นที่นิยมมากที่สุด
ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยว การขึ้นตัวเรือนมักจะทำจากแพลทินัม ทองสีขาว หรือสีเหลืองทอง
ขายึดมักจะใช้ 3 ง่าม หรือ 4 ง่าม แบบทั่วไป ในรูปแบบ3ง่าม จะดูหรูหราเห็นความงามประกายของเพชรมากขึ้น โชว์เนื้อที่ผิวเพชรได้เต็มที่ เพราะไม่มีตัวโลหะที่ปิดขวางด้านบน และด้านข้างของตัวเพชรมากเกินไป   อีกประโยชน์ของการขึ้นตัวเรือนรูปแบบนี้ คือว่า ใช้โลหะการทำขึ้นตัวเรือนน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับแบบอื่น

Basket-style diamond stud earrings
รูปทรงเหมือนตะกร้า แบบการขึ้นตัวเรือนยังสร้างขึ้นจากกรอบโลหะ แต่ด้านล่างต่างหูเพชรเป็นแบบแบน แนบกับติ่งหู

Crown-style setting diamond studs
ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวรูปแบบนี้ ลักษณะเพชรถูกดันไปข้างหน้า เมื่อเวลาสวมใส่เพชรมักจะทิ้งน้ำหนักคล้อยไปด้านหน้าติ่งหู ทำให้ดูไม่แนบชิด ไม่พอดีกับติ่งหูของคุณ
เวลาที่เลือกซื้อต่างหูเพชรควรจะเลือกให้พอดี ชิดกับติ่งหูของคุณ และการออกแบบขึ้นตัวเรือน ของต่างหูเพชรคุณก็เกิดความแตกต่างได้ แค่มีรายละเอียดในการออกแบบมากที่สุด

นี่คือเคล็ดลับ การดูแลทําความสะอาดแหวนเพชร เมื่อคุณได้ซื้อแหวนเพชรมาแล้ว จะเก็บไว้ในกล่อง หรือใส่แหวนเพชรอยู่ตลอด ก็ควรทําความสะอาดแหวนเพชรของคุณเป็นประจำ เพื่อรักษาประกายเพชรของคุณ

วิธีง่ายๆเพื่อให้แหวนเพชรของคุณดูสวยงาม แช่แหวนเพชรลงในน้ำที่ละลายสบู่เหลวอ่อนโยนเพียงไม่กี่หยด หรือน้ำยาใช้เพื่อทำความสะอาดเครื่องเพชร หลังจากนั้น ใช้แปรงสีฟันอ่อนนุ่ม ทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ แปรงสีฟันควรใหม่ และใช้เฉพาะสำหรับการทำความสะอาดเครื่องประดับเพชรของคุณ ใช้แปรงขัดส่วนที่ยากจะเข้าถึง เช่น ด้านหลังของแหวนเพชร ซึ่งมักเป็นที่สะสมสิ่งสกปรก คราบน้ำมัน เครื่องสำอาง หมั่นทำความสะอาดครั้ง หรือสองครั้งต่อสัปดาห์

ขัดเครื่องประดับของคุณด้วยแปรงสีฟันที่สะอาดนุ่ม อย่างเบามือ ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เหลือ แต่ก่อนจะล้าง ให้แน่ใจว่าแหวนเพชรไม่มีส่วนที่เปราะบางเกินไป เป็นเครื่องประดับโบราณ หรือชำรุดอยู่  เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

จากนั้นเพียงแค่ล้างแหวนเพชรของคุณด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มไม่เป็นขุย หรือผ้าสำหรับเช็ดอัญมณีโดยเฉพาะ ถ้าหากคุณกำลังล้างเครื่องประดับเพชรเหนืออ่างล้างหน้า ก็ให้แน่ใจว่าได้ปิดรูท่อระบายน้ำแล้ว หรือหลีกเลี่ยงการตกหล่นลงไปในท่อระบายก็จะดีกว่า

สารฟอกขาว คลอรีน หรือสารกัดกร่อน เช่น น้ำยาทำความสะอาดครัวเรือน หรือยาสีฟัน ไม่ควรใช้ทำความสะอาดเครื่องประดับเพชร สารเคมีเช่นคลอรีน สามารถทำลายบางส่วนของโลหะต่างๆ ที่ใช้กับโลหะผสมทองในตัวเรือนแหวนเพชร และสารกัดกร่อนสามารถขูดทอง และโลหะอื่น ๆได้

การทำความสะอาดแหวนเพชรอีกวิธี คือใช้เครื่องอัลตราโซนิก บางครั้งการทำความสะอาดด้วยเครื่องอัลตราโซนิก ต้องล้างด้วยความระมัดระวัง ให้แน่ใจว่าแหวนเพชรไม่เปราะบาง มีส่วนหัก หรือชำรุดก่อนแล้ว การทำงานของเครื่องอัลตราโซนิก จะส่งคลื่นเสียงความถี่ต่ำผ่านน้ำทำให้ของเหลวที่สั่น จะเอาฝุ่น และสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเครื่องประดับหลุดออกไป

ก่อนที่จะนำแหวนเพชรของคุณ ทำความสะอาดลงในเครื่องอัลตราโซนิก ดีที่สุดคือ ปรึกษามืออาชีพ  หรือดูคำแนะนำในใบรับรองเพชรที่คุณได้ซื้อแหวนเพชรมาจากร้านขายเพชร ว่าควรทำความสะอาดดูแลยังไง และร้านขายเพชรบางแห่งก็มีบริการหลังการขาย ล้างเครื่องประดับเพชรให้ด้วยเครื่องอัลตราโซนิก

การทำความสะอาดแหวนเพชรอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ประกายเพชร และเครื่องประดับเพชรของคุณอยู่ในสภาพแพรวพราว พร้อมที่จะส่องแสงสำหรับโอกาสพิเศษของคุณต่อไป

การเก็บรักษาเครื่องประดับเพชร

การเก็บรักษา
ถ้าจะเก็บแหวนเพชร หรือมีเครื่องประดับเพชร สองชิ้นขึ้นไปอยู่ในกล่องเก็บเครื่องประดับอยู่ด้วยกัน ต้องระวังเพชรจะกระทบกัน ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนหน้าเพชรได้ ควรจะเก็บเครื่องประดับเพชรแยกกล่องกันดีกว่า หรือ ใช้กล่องเก็บเครื่องประดับเพชรสำหรับมีช่องวางให้แต่ละชิ้นไว้อยู่แล้ว

การสวมใส่
ไม่สวมใส่เครื่องประดับเพชรสองชิ้นซ้อนด้วยกัน เช่นสร้อยคอเพชร เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกัน ซึ่งจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวเครื่องประดับเพชร

น้ำหอมหรือสารเคมี
คุณภาพของเพชรจะสูญเสียประกาย ความมันวาวลง เนื่องจากปฏิกิริยาทางเคมี ถ้าเป็นไปได้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำหอม และสารเคมีที่ไม่จำเป็น

ตรวจสอบอัญมณีประจำ
ตรวจสอบเครื่องประดับเพชรอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมีอายุของการใช้งานตามปกติ สามารถซ่อม หรือแก้ไขได้ในร้านขายเครื่องประดับเพชรพลอย

ร้านรับซื้อเพชรพลอย ที่ไม่ได้มีดีแค่การให้บริการ ร้านรับซื้อเพชรพลอยของเรา สถานที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพ ยังมีการให้ราคาที่สูงอีกด้วย การันตีจากลูกค้าที่แนะนำ บอกต่อกันมาปากต่อปาก ไม่ว่าจะเป็นการรับซื้อที่หลากหลาย ไม่เฉพาะแค่เพียงสินค้าที่เป็นเพชร เครื่องประดับเพชรพลอย ยังรับซื้อเครืองประดับ ทองคำ ทองเค ทองขาว แพลตินั่ม เครื่องเงิน นาก นาฬิกาโรเล็กซ์ การบริการที่มีให้เลือกมากมายหลายช่องทางการบริการ มีการรับรองจากกระทรวงพาณิชย์ที่ทำให้ร้านรับซื้อเพชรของเราเป็นที่น่าเชื่อถือของลูกค้าหลายท่าน ทั้งด้วยเหตุผลหลายประการเหล่านี้  ทำให้ร้านรับซื้อเพชรพลอยของเรานั้นเปิดให้บริการมายาวนานมากกว่า 30ปี..

เนื่องจากการให้บริการรับซื้อเพชรพลอยที่มีมายาวนั้น การบริการของทางร้านจึงเพิ่มมากขึ้น และหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า  ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าทางไกล หรือลูกค้าที่สามารถเดินทางมาที่หน้าร้านได้ด้วยตัวเอง ร้านรับซื้อเพชรพลอยของเรานั้นมีบริการหน้าร้าน  สำหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจจะเข้ามาเจรจากับทางร้านเพื่อความเชื่อใจของตัวลูกค้าเอง และทางร้านรับซื้อเพชรของเรายังมีบริการติดต่อเจรจา แบบผ่านช่องทางของโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อความสะดวกของลูกค้าทางไกล หรือลูกค้าที่ไม่สะดวกกับการมาติดต่อทางด้านหน้าร้านด้วยตัวเอง และสำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกไม่สามารถนำสินค้ามีค่าจำนวนมาก มาที่ร้านด้วยตัวเองนั้นทางร้านยังมีบริการรับซื้อสินค้าถึงที่อีกด้วย แล้วเมื่อสิ้นสุดการเจรจาทางร้านสามารถที่จะจ่ายลูกค้าด้วยเงินสดได้เลยทันที โดยที่ลูกค้าไม่ต้องรอนานอีกด้วย

 

ร้านของเรานอกจากที่จะรับซื้อเพชรพลอยนั้น ร้านเรายังรับซื้อสินค้าจำพวกทองเค ทองคำขาว หรือเครื่องประดับที่ประกอบด้วยเพชร หรือแพลตตินั่ม ไม่ว่าจะเป็นกำไรฝังเพชรตัวเรือนแพลตตินั่ม กำไรฝังพลอยตัวเรือนแพลตตินั่ม แหวนเพชรตัวเรือนทองเค หรือแหวนพลอยตัวเรือนทองคำขาว สร้อยคอตัวเรือนทองคำขาว เข็มกลัดติดเสื้อที่ฝังจำพวกเพชรหรือพลอย เท่านั้นไม่พอทางร้านรับซื้อเพชรของเรายังรับซื้อทองรูปพรรณ หรือสร้อยทองที่ขาดชำรุด สร้อยทองขาวขาดชำรุด  นาฬิกาโรเล็กซ์ หรือของมีค่า ที่สามารถตีออกมาเป็นมูลค่าได้ ทางร้านของเรานั้นยินดีที่จะรับ  และให้ราคาสูงหากทางลูกค้าต้องการ  ถ้าหากลูกค้าต้องการราคาที่สูงกว่านั้น  ก็สามารถเจรจา และต่อรองกับทางร้านได้อย่างเป็นกันเองอีกด้วย

ร้านรับซื้อเพชรพลอยของเรานั้นถือว่าเป็นร้านที่มีประสิทธิภาพที่สูง เรามีช่างที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เพื่อบริการลูกค้าที่ต้องการคำแนะนำ ทางเราก็มีช่างที่ชำนาญการไว้คอยบริการ และอีกอย่างหนึ่งนั้นที่ร้านของเรามีความมั่นใจในการให้บริการการค้านั้น เพราะว่าร้านรับซื้อเพชรพลอยของเรานั้นมีใบอนุญาตทางการค้าของเก่า และใบทะเบียนที่ได้รับการอนุญาต รับรองและออกให้โดยกระทรวงพาณิชย์ซึ่งทำให้ร้านของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำให้ลูกค้าหันมาให้ความสนใจ และเลือกใช้บริการกับทางร้านของเรา

TEL : 082-223-4185   

ID lINE : gold18k

www.รับซื้อเพชรพลอย.com 

https://www.facebook.com/DiamondShop99

 

“หลัก 4Cs คือหลักการเลือกซื้อเพชรพื้นฐาน ดูเพชรเพื่อให้คุณเข้าใจถึงคุณลักษณะเฉพาะตัวของเพชรแต่ละเม็ดมากขึ้น นอกจากจะใช้หลักการดูเพชรพื้นฐาน 4Cs นี้แล้ว ก็ต้องใช้ปัจจัยอื่นๆอีกหลายข้อ ที่เป็นตัวประเมินดูมูลค่าราคาเพชร ราคารับซื้อขายเพชร“

การจำแนกระดับ คุณลักษณะของเพชร สามารถแบ่งออกเป็น 4Cs ดังนี้คือ

Carat Weight (น้ำหนักของเพชรเทียบเป็นกะรัต) น้ำหนักของเพชรเรียกเป็นกะรัต เพชร 1 กะรัตมี 100 สตางค์ เมื่อนำมาชั่งจะหนัก 0.20 กรัม เพชรครึ่งกะรัต บางครั้งจะเรียกขนาดเเพชร 50 สตางค์ และถ้าคุณเจอเพชรขนาด 0.05 กะรัต กับเพชร 5 สตางค์ นั่นคือเพชรขนาดเดียวกัน เพชรขนาด 0.05 กะรัตหรือที่คนไทยมักเรียกว่า เพชร 5 ตังค์ จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.40 มม.โดยประมาณและเพชรขนาด 0.50 กะรัต หรือเรียกว่าเพชรขนาด 50 ตังค์ จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5.20 มม. ขนาดเพชรดังกล่าวเป็นขนาดโดยประมาณเท่านั้น ถ้ามองมูลค่าในเพชรขนาด1กะรัตขึ้นไปแล้ว ก็เห็นจะมีมูลค่ามากกว่าเพชรขนาด50ตังค์ได้อย่างชัดเจน
Color Grade (สีของเพชร) เพชรมีสีหลายเฉดสีมาก มีตั้งแต่เพชรขาวใสไม่มีสี (Colorless) ไปจนถึง..เพชรสีอมเหลือง (yellow) เกรดสีของเพชร มีตั้งแต่ D,E,F,…ตามลำดับ เช่น D color ( จะเห็นระบุในใบเซอร์เพชร ) คือเพชรที่ใสไม่มีสี หรือที่เรียกติดปากว่า “น้ำ” มีน้ำตั้งแต่ 99,98,97,96,95,…. ตามลำดับซึ่งตัวเลขยิ่งเยอะ เพชรจะยิ่งใสไม่มีสี ขาวใส คนรับซื้อเพชรขายเพชร เรียกกันว่า “เพชรน้ำดี”

Clarity Grade (ความบริสุทธิ์ความใสของเพชร) FL (Flawless)เพชรไร้ตำหนิทั้งภายนอกและภายใน เพชรระดับนี้หายาก

IF เพชรไร้ตำหนิภายใน ไม่มีตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยกล้องขยาย 10 เท่า

VVS1 และ VVS2 (Very Very Slightly Included) เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในที่เล็กมากที่สุด ซึ่งจะมองเห็นได้ยาก ด้วยกล้องขยาย 10 เท่า

VS1 และ VS2 (Very Slightly Included) เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในเล็กน้อย จะมองเห็นได้ยาก ด้วยกล้องขยาย 10 เท่า

SI1 และ SI2 (Slightly Included) เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในซึ่งสังเกตเห็นได้ จะมองเห็นได้ชัด ด้วยกล้องขยาย 10 เท่า

I1, I2 และ I3 เพชรระดับนี้มีตำหนิภายในที่เห็นได้อย่างชัดเจน ได้ด้วยตาเปล่า

Cut Grade (รูปแบบการเจียระไนของเพชร) การกระจายตัวของแสงสีขาวประกายระยิบระยับวูบวาบ ที่ออกมาจากตัวเพชร เราเรียกกันว่า “ไฟ” ที่สะท้อนสีขาวจากผิวด้านในด้านนอกของเพชร ที่เกิดจากการเจียระไนเพชร เพชรที่ได้เจียระไนมาดี จะมีความสมดุลของแสงสีขาว ไฟ และประกายระยิบระยับของตัวเพชรเอง แล้วรูปแบบการเจียระไนเพชรก็มีการพัฒนาไปตามยุคตามสมัยนิยม

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องเพชรอยากเรียนรู้เพิ่มเติม ตอนนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญเปิดสอนอบรม หลักสูตรการดูเพชร 4Cs ขึ้นมาหลายที่ให้เลือกอีกด้วย สามารถค้นหาใน Google ได้เลยค่ะ